
เรื่องราวและคลิปจากเพจ สถานีตำรวจภูธรสารภี
ดาบตำรวจ ธีรพล กันตรีสมบัติ รหัสสารภี 615 ปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรช่วงเย็น บริเวณทางตัดรถไฟยางเนิ้งฝั่งตะวันออก เวลา 17.00 น ถึง 18.00 น ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ช่วงเวลา 17.35 น ได้มีรถอีซูซุสีขาวหมายเลขทะเบียนงร 6053 เชียงใหม่ ได้ขับรถมารอตรงจุดแยกทางตัดรถไฟยางเนิ้งโดยได้ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถยนต์ ข้าพเจ้าปฏิบัติหน้าที่เห็นดังนั้น จึงได้ใช้มือแจ้งเตือนว่าให้วางโทรศัพท์ แต่คนขับไม่ยอมวางมองหน้าแล้วยังโทรต่อไป ข้าฯจึงได้เดินเข้าไปเพื่อจะแจ้งเตือนแต่คนขับได้พุ่งรถออกมาหาข้าฯ จึงได้เบี่ยงตัวหลบพร้อมเอามือยันไปโดนกระจกข้าง ส่วนรถคันดังกล่าวได้ขับหลบหนีไปทางลำพูน ข้าฯจึงเข้าพบร้อยเวรเพื่อแจ้งความไว้ต่อไป
ส่วนอันนี้ข่าวจากช่องเจ็ด Link ข่าว
เจาะประเด็นข่าวค่ำ – ตำรวจจราจรเข้าไปเตือนคนขับรถกระบะห้ามใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ อีกฝ่ายฉุนขับรถพุ่งเข้าใส่ หวุดหวิดชนตำรวจ ผู้เสียหายเข้าแจ้งความ และล่าสุดตำรวจรู้ตัวคนขับรถกระบะคันดังกล่าวแล้ว เป็นช่างไฟฟ้า อ้างเครียดปัญหาส่วนตัว
นี่เป็นภาพจากกล้องติดหมวกตำรวจจราจร สภ.สารภี ขณะปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกบริเวณทางตัดรถไฟยางเนิ้ง ฝั่งตะวันออก อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 17.35 น. วานนี้ (7 พ.ค.)
ต่อมาตำรวจสังเกตเห็นรถกระบะสีขาว ซึ่งคนขับใช้โทรศัพท์มือถืออยู่ จึงพยายามห้าม แต่อีกฝ่ายกลับทำสิ่งไม่คาดคิด
ตำรวจที่อยู่ในคลิป คือ ดาบตำรวจ ธีรพล กันตรีสมบัติ รหัสสารภี 615 เกือบจะถูกรถกระบะอีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน งร 6053 เชียงใหม่ พุ่งชน ก่อนจะขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทางจังหวัดลำพูน
หลังเกิดเหตุ ดาบตำรวจ ธีรพล ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.สารภี ระบุว่า คนขับรถกระบะคันดังกล่าวใช้โทรศัพท์ขณะขับรถยนต์ จึงใช้สัญญาณมือแจ้งเตือนให้วางโทรศัพท์ แต่คนขับไม่ยอมวาง กลับมองหน้าแล้วโทรต่อไป จึงเดินเข้าไปแจ้งเตือน แต่คนขับกลับขับรถพุ่งออกมา จึงเบี่ยงตัวหลบและเอามือยันไปที่กระจกข้าง
ล่าสุดวันนี้ (8 พ.ค.) ตำรวจตรวจสอบจนรู้ตัวคนขับรถกระบะคันดังกล่าวแล้ว เป็นชายอายุ 37 ปี ช่างไฟฟ้าบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งหนึ่ง จึงโทรศัพท์ให้มาพบพนักงานสอบสวนเมื่อช่วงเช้า ทันทีที่เห็นดาบตำรวจ ธีรพล ได้กล่าวขอโทษ โดยอ้างว่าขณะเกิดเหตุกำลังเครียดกับปัญหาส่วนตัว ไม่มีเจตนาจะชน จากนั้นได้ขอกลับไปปรึกษาทนายความ แล้วจะมารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้
ซึ่งจะมีความผิดฐานพยายามทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ หรือถ้าสอบสวนพบว่ามีเจตนามากกว่านั้น ก็จะเพิ่มเป็นข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน และความผิดใช้มือถือขณะขับรถ
ด้าน ดาบตำรวจ ธีรพล เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นวินาทีเฉียดตาย เพราะคู่กรณีขับรถพุ่งมาเกือบชน เคราะห์ดีที่หลบทัน และเมื่อผ่านไปแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าจะจอดรถลงมาดู กลับขับหลบหนีไป ถือว่ามีเจตนาทำร้ายเจ้าพนักงาน ซึ่งประเด็นนี้ได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนไปแล้ว