เลือกยางรถยนต์ แบบคุ้มค่า อัพเดตล่าสุด (ต้องอ่าน)

เลือกยางรถยนต์ให้กับรถคู่ใจของคุณนั้น ก็เปรียบเสมือนการเลือกคู่ครอง เลือกมาดีก็อยู่กันไปยาวๆ ใช้งานแบบไหนก็เลือกใช้แบบนั้น อยากนุ่มเงียบ โค้งหนึบ ก็เลือกได้ตามการใช้งาน แต่สิ่งสำคัญที่จะหลงลืมกันไม่ได้เลยนั่นคือการเลือกยางรถยนต์ที่ได้คุณภาพ มาตรฐานระดับสากล ที่สำคัญต้องคุ้มค่า ราคาโดนใจ สมรรถนะเกินราคา

ยางรถยนต์ ก็มีมากมายหลายแบบ เราควรให้ความสำคัญในการเลือกซื้อและพิจารณาในทุกๆ ส่วน เพื่อจะได้ยางรถยนต์ที่เหมาะสมกับรถของเรา เหมาะกับรูปแบบการขับขี่ของเราให้มากที่สุด ที่สำคัญเราจะได้ยางที่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปมากที่สุด ก่อนจะไปเลือกซื้อยาง เรามาดูกันก่อนว่าเมื่อไหร่ที่จะต้องเปลี่ยนยาง

เมื่อไหร่จะถึงเวลาเปลี่ยนยาง

1. ยางหมดอายุ โดยปกติแล้วยางจะมีอายุการใช้งานประมาณ 2-3 ปี บางคนก็ลากยาวถึง 5 ปีก็มี ระยะทางวิ่งประมาณ​ 50,000 กิโลเมตร
2. ยางเริ่มแข็ง ทดสอบด้วยการเอาเล็บจิกลงไปจะไม่ค่อยยืดหยุ่นและมีความแข็ง
3. ดอกยางเหลือน้อย ให้สังเกตที่ดอกยางว่ามีความหนาลดลง บางช่วงของยางอาจจะไม่มีดอกยางเหลือน้อย หรือไม่เหลือเลย
4. ยางมีรูปทรงผิดปกติ เช่น มีลักษณะบวม รูปทรงเปลี่ยนไป
5. ยางเกิดการเสียหาย เช่น มีรอยฉีกขาดที่แก้มยาง หรือมีรอยในตำแหน่งอื่นๆ

สิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็เป็นหลักการพิจารณาในการเปลี่ยนยางใหม่ ซึ่งก็อาศัยการสังเกต แม้ว่ารูปทรง และลักษณะภายนอกของยาง อาจะยังคงดูดีใหม่ แต่ยางเมื่อมีการเสื่อมสภาพแล้ว ก็จะเริ่มแข็ง และมีเสียงดัง หลายคนอาจจะใช้วิธีดูจากระยะทางการวิ่ง หรือจากอายุของยาง แล้วตัดสินใจเพื่อเปลี่ยนยางแทนก็ได้ครับ ตอนนี้ก็มาดูกันต่อว่า จะเปลี่ยนยางใหม่ เราจะเลือกกันอย่างไรดี

เลือกยางยี่ห้อเดิมรุ่นเดิมที่ติดรถมาดีมั้ย?

เอาแบบง่ายที่สุด สุดๆ เลยก็คือ เอายี่ห้อเดิม รุ่นเดิมที่ติดรถมานั่นแหละ แบบนี้ก็ง่ายดีครับ ไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่อย่าลืมว่า ยางที่ติดรถมานั้นก็เป็นยางมาตรฐานที่ผู้ผลิตเขาดูเรื่องต้นทุนที่เหมาะสมมาแล้ว ถ้าจะเปลี่ยนยางทั้งที เราเลือกรุ่นที่ดีกว่า สวยกว่า ประสิทธิภาพการทำงานดีกว่า เงียบกว่าน่าจะดีกว่านะครับ บางยี่ห้อบางรุ่นก็ราคาเท่ายางเดิม บางยี่ห้อบางรุ่นก็เพิ่มเงินอีกนิดหน่อย แต่ได้เรื่องการเกาะถนนที่ดีกว่า เงียบกว่า ก็เรียกว่าคุ้มกว่าเยอะครับ

เลือกยางใหม่ยี่ห้อใหม่ รุ่นใหม่ ต้องพิจารณาอะไรบ้าง

ก็แนะนำกันเอาแบบไม่เทคนิคมากล่ะกันครับ ว่าหลักสำคัญในการเลือกยางมีอะไรบ้าง มาเริ่มกันเลย

1.เลือกประเภทของยางกันก่อน

เดี๋ยวนี้ผู้ผลิตยางก็มีการแบ่งประเภทยางตามรูปแบบของรถ และตามรูปแบบการใช้งาน เพื่อให้รองรับกับการใช้งานจริงๆ มากยิ่งขึ้น รวมถึงประเภทยางแนวประหยัดน้ำมันก็มีออกมาเช่นกันครับ ทีนี้เวลาเราจะเลือกยางก็ต้องเลือกประเภทให้ตรงกับรถ และการใช้งานของเราก่อนครับ ซึ่งส่วนใหญ่ยางจะถูกแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ประมาณนี้ครับ

• ยางสำหรับรถยนต์นั่งทั่วไป ประเภทรถเก๋ง ซึ่งบางท่านก็เลือกนำไปใช้กับรถกระบะที่ไม่ได้เน้นการบรรทุกด้วย ซึ่งบางประเภทนี้จะออกแบบมาให้สามารถขับขี่ได้ด้วยความเร็วสูง การเกาะถนนดีเยี่ยม การรีดน้ำทำได้ดี และในรุ่นพรีเมี่ยมก็จะมีความเงียบเป็นพิเศษ

ตัวอย่าง

KUMHO ECSTA PS31

ออกแบบมาสำหรับการขับขี่แบบสปอร์ต พร้อมความปลอดภัยทั้งบนถนนเปียกและถนนแห้ง ร่องรีดน้ำประสิทธิภาพสูงถึง 4 ช่องพร้อมด้วยร่องระบายด้านข้าง ช่วยป้องกันการเหิรน้ำ บล็อกดอกยางแบบร่องฟันปลาช่วยการระดับน้ำออกจากหน้ายางได้รวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีปุ่มกระจายความร้อนแบบ 3 มิติช่วยกระจายความร้อนหน้ายางให้เท่ากัน เพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่ในทุกช่วงความเร็ว

ปุ่มกระจายความร้อนแบบ 3D เทคโนโลยีปุ่มกระจายความร้อนแบบ 3 มิติ บริเวณหน้ายาง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายความร้อนของหน้ายางให้เท่ากัน เพื่อประสิทธิภาพการยึดเกาะถนน และการเบรกในทุกพื้นผิวทั้งถนนเปียก และในทุกช่วงความเร็ว	ร่องรีดน้ำตรงประสิทธิภาพสูงถึง 4 ช่อง พร้อมร่องระบายด้านข้าง ดอกยางทิศทางเดียว ช่วยระบายน้ำออกจากหน้ายางตามทิศทางการขับขี่ได้อย่างรวดเร็ว จากร่องรีดน้ำหลัก 4 ช่อง พร้อมร่องระบายน้ำด้านข้าง ทำมุม 10 องศา เพื่อการระบายน้ำที่รวดเร็ว ให้คุณมั่นใจได้ในทุกเส้นทาง แม้ว่าบนพื้นถนนเปียก ป้องกันการเหิรน้ำ ปลอดภัยทุกพื้นผิว	บล็อกดอกยางแบบร่องฟันปลา บล็อกดอกยางแบบร่องฟันปลา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำออกจาก บริเวณหน้ายางได้รวดเร็วมากยิ่ง ขึ้น ช่วยเพิ่มแรงดันในการระบายนำออกไปยัง บริเวณร่องรีดน้ำหลัก

• ยางสำหรับรถกระบะ และรถ SUV ยางประเภทนี้ก็ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับรถกระบะ และรถ SUV โดยเฉพาะ ซึ่งลักษณะของยางจะมีแก้มยางที่หนามากกว่า เพื่อรองรับการบรรทุก และรองรับน้ำหนักของรถ SUV ที่มีค่อนข้างเยอะ ซึ่งยางประเภทนี้ก็มีทั้งยางสำหรับบรรทุก ยางสำหรับการขับขี่ทั่วไป และยังรวมไปถึงยางสำหรับลุยป่า หรือที่เราเรียกกันว่า OFFROAD อีกด้วยครับ

ตัวอย่าง

KUMHO CRUGEN HT51

การจัดเรียงบล็อกดอกยางใหม่ล่าสุด ช่วยให้หน้ายางสัมผัสเต็มพื้นถนน ยึดเกาะถนนเป็นเยี่ยม สึกเรียบตลอดการใช้งาน	ร่องรีดน้ำแบบซิกแซกขนาดใหญ่ 4 ช่อง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรีดน้ำ ทำให้ควบคุมได้อย่างมั่นใจบนถนนเปียก	ดอกยางออกแบบให้ทนทาน เพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ถนนทางตรงด้วยการออกแบบดอกบล็อกกลางหน้ายางเพื่อให้มีแรงกรุยสูงสุด

• ยางประหยัดน้ำมัน ยางประเภทใหม่ที่ออกมาในช่วงยุคน้ำมันแพง ซึ่งการออกแบบยางประเภทนี้จะเน้นไปที่การลดความต้านทานในการหมุนของยาง มีการออกแบบลายดอกยางใหม่ เน้นให้สามารถขับขี่ได้ในระยะทางที่สูงขึ้น เรียกว่าเป็นยางที่เน้นความประหยัด สำหรับการเลือกยางประเภทนี้มาใช้ก็สามารถบอกกับร้านยางที่เราไปเปลี่ยนได้เลย เพราะผู้ผลิตมักจะระบุไว้เลยว่าเป็นยางประหยัดน้ำมัน

ตัวอย่าง

KUMHO ECOWING KH27

ยางที่เน้นความคุ้มค่า ทนทาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการออกแบบยางใหม่ที่ช่วยลดความต้านทานการหมุนของยาง ให้หมุนได้ไกลมากขึ้น ช่วยประหยัดน้ำมันมากกว่า พร้อมการออกแบบให้มีความทนทาน ด้วยโครงสร้างชั้นผ้าใบที่แข็งแกร่ง และมีมีประสิทธิภาพการเกาะถนนและการเบรคที่ดีทั้งถนนเปียกและถนนแห้ง

บล็อกดอกยางแบบ C-CUT ช่วยเพิ่มความแข็ง แกร่งของหน้ายาง ควบคุมฉับไว เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนน พร้อมเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ ด้วยการออกแบบร่องหลุมกลม บริเวณหน้ายาง ช่วยลดความแข็งกระด้างของดอกยางมากขึ้น	ร่องยางขนาดเล็กบริเวณหน้ายาง ช่วยยืดอายุการใช้งานของบล็อกดอกยาง ให้สึกเรียบเท่ากันตลอดทั้งเส้น ทนทาน คุ้มค่า ใช้งานได้ยาวนานมากกว่า	ร่องรีดน้ำขนาดใหญ่ 4 ร่อง ช่วยระบายน้ำออกจากหน้ายาง ได้อย่างรวดเร็ว  เพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมบนพื้นถนนเปียก ลดอาการเหินน้ำ ได้เป็นอย่างดี ** เฉพาะยางที่มีขนาด 205 ขึ้นไป **ร่องรีดน้ำขนาดใหญ่ 3 ร่อง เฉพาะยางที่มีขนาดต่ำกว่า 205

2.เลือกขนาดยาง และดูรหัสตัวเลขบนยาง

เลือกประเภทของยางเรียบร้อยแล้ว ต่อไปเราจะต้องมาเลือกขนาดยางกันต่อครับ ซึ่งวิธีการในการเลือกขนาดยางนั้น ต้องให้มีความเหมาะสมกับขนาดของกระทะล้อด้วย คือ ตรงตามรุ่น หรือใกล้เคียงมากที่สุด มิเช่นนั้นก็จะใส่กันไม่ได้ โดยจะมีตัวเลขที่เราต้องพิจารณากัน 3 ตัวด้วยกัน สำหรับเรื่องขนาดอย่างก็คือ

ขนาดยาง (เส้นผ่านศูนย์กลาง) / ความกว้างของยาง / ความสูงของแก้มยาง

จากภาพในกรอบสีแดงจะเขียนไว้ว่า P265/70 R17 ความหมายก็มีดังนี้ครับ

265 คือความกว้างของยาง หรือที่เรามักเรียกว่ายางหน้ากว่างเท่าไหร่นั่นเอง
70 คือความสูงของแก้มยาง
R17 คือเส้นผ่านศูนย์กลางของยาง หรือเราเรียกง่ายๆ ว่า ขนาดขอบยาง นั่นเอง

ในการพิจารณาตัวเลขเหล่านี้ก็ให้ดูว่าสามารถใช้งานกับล้อของเราได้หรือไม่ด้วย เช่น รถเราสามารถรองรับยางได้สูงสุดที่ขอบ 18 นิ้ว ก็ไม่ควรเลือกเกินขนาดนี้เพราะใส่ไปแล้ว เวลาเลี้ยวอาจจะติดได้ หรือถ้าต้องการจริงๆ เราก็อาจจะใช้วิธีเลือกยางที่มีความสูงของแก้มยางที่น้อยลงได้เช่นกัน ส่วนความกว้างของยาง ก็ต้องเหมาะสมด้วย ถ้ากว้างมากเกินไปล้อก็จะล้นออกมาจากตัวรถ ผิดกฏหมายอีก ดังนั้นก็เลือกให้เหมาะสม ถ้าคิดไม่ออกก็เลือกสเปคใกล้เคียงกับยางตัวเดิม หรือจะปรึกษาจากร้านจำหน่ายยางก็ได้ครับ

นอกจากนี้ที่ตัวอย่างยังมีรหัสกำกับความเร็วสูงสุดของยางที่รองรับได้ด้วย

ส่วนใครที่เน้นเรื่องการบรรทุกเป็นพิเศษ อย่าลืมดูที่สเปคยางด้วยว่ารองน้ำหนักได้สูงสุดเท่าไหร่ เพราะถ้าเลือกไม่เหมาะสม เวลาใช้บรรทุกยางอาจจะแตก หรือระเบิดในขณะวิ่งได้ครับ และสุดท้ายวันผลิตยาง จะเป็นตัวเลข 4 ตัวกำกับที่ยาง ซึ่งจะบอกสัปดาห์และปีที่ผลิตเช่น 3018 ตัวเลข 2 ตัวแรกคือ 30 จะบอกว่าผลิตสัปดาห์ที่ 30 และตัวเลข 2 ตัวหลัง 18 จะบอกว่าผลิตปี 2018 ก็อย่าลืมดูกันนะครับ

สำหรับการเลือกซื้อยางรถยนต์แบบง่ายๆ ก็มีประมาณนี้ครับ ที่เหลือก็จะเป็นพวกโปรโมชั่นต่างๆ ในช่วงนั้น เช่น ส่วนลด หรือการผ่อน 0% รวมถึงบริการพิเศษต่างๆ จากร้านยางที่เราไปเปลี่ยนให้ ส่วนใหญ่ครับ ตอนหน้าจะมาแนะนำวิธีเลือกร้านยางที่ใช่ และไว้ใจได้ กันต่อครับ อย่าลืมติดตามในตอนต่อไป

แนะนำสำหรับคนที่กำลังจะเปลี่ยนยาง และคิดไม่ออกว่าจะเลือกยางยี่ห้อไหนดี

KUMHO Tire สุดยอดยางรถยนต์ที่นำเข้าจากประเทศเกาหลี ด้วยมาตฐานระดับสูง คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับความคุ้มค่า ปลอดภัย และถูกใจทุกการขับขี่อย่างแน่นอน คุณภาพเกินราคา ดีไซน์สวย เป็นเอกลักษณ์ คุณภาพเทียบเท่ายี่ห้อดังในราคาเป็นมิตร

ติดตามความเคลื่อนไหว ข้อมูลและโปรโมชั่นดีๆได้ที่
https://www.facebook.com/KumhoTireTH/

หรือที่เว็บไซต์
https://www.kumhotire.in.th/